เดอะ เฮาส์ ออฟ สมูท เคอร์รี่
สไตล์อาหาร
อาหารไทยดั้งเดิมตำรับชาววัง
เดอะ เฮาส์ ออฟ สมูท เคอร์รี่ ให้บริการอาหารไทยแท้ ๆ จากสี่ภาคของประเทศไทย โดยใช้สูตรจากต้นตำรับชาววัง มีจุดเด่นที่ตัวเลือกอันหลากหลายของแกงไทยประเภทต่าง ๆ ที่เป็นรสชาติดั้งเดิมจากทั่วประเทศ และเนื่องจากโรงแรมฯ มีนโยบายเพื่อความยั่งยืนและการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น ดังนั้น ผัก ข้าว ผลไม้ เครื่องเทศ และสมุนไพร ที่นำมาปรุงอาหารนั้น จึงคัดเลือกมาจากสวนของเกษตรกรไทยที่ทำการเพาะปลูกโดยวิถีเกษตรอินทรีย์ และห้องอาหารเองนั้น ก็มีสวนครัวที่ปลูกเองภายในโรงแรมฯ อีกด้วย
บรรยากาศและการตกแต่ง
ความเป็นมรดกราชวงศ์ของโรงแรม ซึ่งเดิมเป็นวังคันธวาส ที่ประทับของสมเด็จพระราชปิตุจฉา เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร ได้สะท้อนออกมาอย่างชัดเจนในการตกแต่งห้องอาหาร เดอะ เฮาส์ ออฟ สมูท เคอร์รี่ โดยจำลองห้องที่ประทับส่วนพระองค์ ตกแต่งให้ทันสมัยด้วยสีสันและลวดลายที่สดใส ในสไตล์ของศิลปะยุค ค.ศ. 1920-1930 ผสมผสานอย่างวิจิตรบรรจงกับงานศิลปะและผ้าไทยที่ผลิตในประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความรักในงานศิลปะหัตถกรรมไทยของเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ ผู้มาเยือนสามารถชมทิวทัศน์ของสวนบนชั้น 3 ของโรงแรมผ่านผนังกระจกใส หรือเลือกนั่งบริเวณระเบียงด้านนอกได้ด้วย
เมนู
เมนูอาหารมุ่งเน้นการใช้วัตถุดิบที่เป็นผลิตผลเพื่อความยั่งยืน โดย 80% ของเมนูทั้งหมด ปรุงจากผลิตผลออร์แกนิกแบบส่งตรงจากฟาร์ม วัตถุดิบที่ห้องอาหารเลือกใช้นั้น ผลิตจากจังหวัดรอบ ๆ กรุงเทพมหานคร และจากภาคเหนือของประเทศ โดยเชฟจะเลือกวัตถุดิบที่หายากและยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก มาปรุงอาหารไทยในรูปแบบที่ผู้มาเยือนไม่เคยได้ลิ้มลองที่ใดมาก่อน ทีมเชฟได้ทุ่มเทเวลาและทักษะทั้งหมดเพื่อค้นคว้าหาข้อมูลต้นตำรับของแกงไทย เพื่อความมั่นใจในการใช้วัตถุดิบและเครื่องปรุงที่ไม่ผิดเพี้ยน เมนูอาหารจึงประกอบไปด้วย แกงตามแบบฉบับของชาววัง แกงสูตรของชาวบ้านและชาวประมง และแกงที่ได้รับอิทธิพลจากประเทศเพื่อนบ้านการรักษาวัฒนธรรมที่ดีงามในการปรุงแกงไทยนี้ นอกจากจะมีความสำคัญยิ่งแล้ว ยังเป็นความภูมิใจของทีมเชฟ ในการนำเสนอเมนูอาหารที่หาไม่ได้ตามร้านอาหารไทยทั่วไป การปรุงอาหารที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของไทย คือการผัด โดยใช้เครื่องปรุงที่มีรสจัดจ้าน เช่น กระเทียม น้ำพริกเผา พริก และตะไคร้ ผสมผสานเพื่อสร้างสรรค์อาหารเมนูเด่นที่มีรสชาติกลมกล่อม ในส่วนของเครื่องดื่มนั้น นำเสนอสุรา เบียร์ ไวน์ ที่ผลิตในประเทศ และค็อกเทลที่ได้รับแรงบันดาลใจจากจังหวัดต่าง ๆ ที่เป็นต้นฉบับของอาหารแต่ละเมนู
ขนาดของห้องอาหาร
ห้องอาหารหลักมี 38 ที่นั่ง ห้องส่วนตัวมี 12 ที่นั่ง และบริเวณระเบียงด้านนอกรับลม 24 ที่นั่ง
การแต่งกาย
สุภาพ
ดนตรีและบันเทิง
เปิดเพลงไทยเดิม